จากการติดตามความเคลื่อนไหวด้านการทหารของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคใกล้เคียง จะเห็นได้ว่าหลายประเทศได้ให้ความสนใจในการเตรียมการ และจัดหาเรือดำน้ำมาใช้งานในกองทัพเรือของตน อาทิ เวียดนามได้ส่งกำลังพลไปฝึกอบรมการปฏิบัติงานในเรือดำน้ำที่สหพันธ์รัฐรัสเซียและรับมอบเรือดำน้ำจากเกาหลีเหนือเข้าประจำการจำนวน ๒ ลำ มาเลเซียจัดหาและรับเรือดำน้ำอยู่ที่มาเลเซียแล้ว ๒ ลำ และสิงคโปร์ขึ้นระวางประจำการเรือดำน้ำแล้วจำนวน ๔ ลำ ซึ่งในที่สุดแล้วเป็นที่เชื่อแน่ได้ว่า ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ จะจัดหาเรือดำน้ำมาใช้ราชการในโอกาสแรกที่งบประมาณเอื้ออำนวยการให้อินโดนีเซียมีเรือดำน้ำเข้าประจำการแล้ว และกำลังพิจารณาจะจัดหาเพิ่มเพิ่มอีก ๒ ลำ อิหร่านและปากีสถานได้ตกลงใจจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการเพิ่มเติมในกองทัพแล้ว จีน และอินเดีย มีเรือดำน้ำเข้าประจำการแล้ว และมีขีดความสามารถที่จะต่อเรือดำน้ำเองได้ โดยเรือดำน้ำจากประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนแต่มีรัศมีปฏิบัติการเข้ามาถึงในอ่าวไทยและทะเลอันดามันได้ทั้งสิ้น

 

          การที่มีบุคคลภายนอกเข้าใจว่า เรือดำน้ำเป็นอาวุธที่ใช้ในทางรุกแต่เพียงอย่างเดียวนั้น ความจริงแล้วอาวุธทุกชนิดมีขีดความสามารถที่จะใช้ในการปฏิบัติการทั้งทางรุกและทางรับได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เรือผิวน้ำ เครื่องบินรบ หรือแม้กระทั่งรถถัง แต่การที่จะใช้อย่างไรนั้น ขึ้นกับนโยบายของประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งทุกประเทศต่างก็ทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า ประเทศไทยไม่เคยเป็นผู้รุกรานประเทศใดก่อนและที่สำคัญที่สุดก็คือ เรือดำน้ำเป็นอาวุธที่ใช้ในการป้องกันประเทศทางรับได้ดีไม่น้อยไปกว่าอาวุธชนิดอื่น ซึ่งเรือดำน้ำก็ได้แสดงให้เห็นบทบาทในการป้องกันประเทศมาแล้ว ในระหว่างสงครามอินโดจีน ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว

 

           ดังนั้น การเริ่มโครงการจัดหาเรือดำน้ำของ กองทัพเรือในขณะนี้ จึงมิได้เป็นการทวนกระแสของสถานการณ์โลกแต่ประการใด ในทางตรงกันข้าม การดำเนินการของ กองทัพเรือในการเริ่มโครงการจัดหาเรือดำน้ำนั้น เป็นการก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกับกระแสความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้อย่างเท่าเทียมกัน