เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๐ กองทัพเรือเวียดนาม ได้รับมอบเรือดำน้ำจากเกาหลีเหนือจำนวน ๒ ลำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติการสงครามใต้น้ำ ซึ่งเรือดำน้ำทั้งสองลำเป็นเรือดำน้ำขนาดเล็กใช้แล้ว ชั้น YUGO มีระวางขับน้ำ ๙๐ ตันที่ผิวน้ำ และ ๑๑๐ ตันขณะดำ โดยมีความเร็วขณะดำ ๘ นอต รัศมีปฏิบัติการ ๕๐ ไมล์ทะเล ทั้งนี้ แม้ว่าเรือดำน้ำดังกล่าวจะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจทางลับได้หลายด้าน เช่น การโจมตีเรือผิวน้ำ การวางทุ่นระเบิด และการแทรกซึมหาข่าวโดยหน่วยสอดแนมหรือหน่วยจู่โจม ปัจจุบันเรือดำน้ำทั้งสองลำอยู่ที่ฐานทัพเรืออ่าวคัมรานห์

          ประเทศเวียดนามเป็นชาติที่ ๓ ในอาเซียนต่อจากประเทศอินโดนีเซีย ที่มีเรือดำน้ำเข้าประจำการ ซึ่งกองทัพเรืออินโดนีเซียมีเรือดำน้ำแบบ ๒๐๙ ประจำการอยู่แล้วจำนวน ๒ ลำ และกำลังจะจัดหาเรือดำน้ำใช้แล้วแบบ ๒๐๖ จากเยอรมันจำนวน ๕ ลำ ในขณะที่กองทัพเรือสิงคโปร์ได้จัดหาเรือดำน้ำใช้แล้ว ชั้น SJOORMEN จำนวน ๔ ลำ จากสวีเดน (โดยลำแรกจัดหาเมื่อปี ๒๕๓๘ และต่อมาได้จัดหาเพิ่มเติมอีก ๓ ลำ โดยจะได้รับมอบระหว่างปี ๒๕๔๒ – ๔๓) ประเทศมาเลเซียได้เช่าเรือดำน้ำชั้น ZWAARDVIS จากเนเธอร์แลนด์จำนวน ๒ ลำ ในขณะที่ประเทศไทย ได้มีโครงการจัดหาเรือดำน้ำระยะยาว แต่ยังไม่สามารถจัดหาเข้าประจำการได้ตามแผน

          ในอนาคตเรือดำน้ำเหล่านี้จะเป็นภัยคุกคาม ที่สำคัญต่อการรักษาสมดุลย์ของกำลังทางเรือของชาติต่างๆ ในภูมิภาค รวมทั้งจะเสริมสร้างขีดความสามารถในการสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือของชาติที่มีเรือดำน้ำประจำการได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ประโยชน์จากการลาดตระเวนสอดแนมความเคลื่อนไหวของประเทศเพื่อนบ้านและการป้องปราม ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของชาติ